นวดกดจุด
นวดกดจุดรักษาโรค : จากการศึกษาวิจัยของ Complementary Therapies in Nursing and Midwifery เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า การนวดกดจุดฝ่าเท้าช่วยให้คนร้อยละ 30 นอนหลับสบายขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยคนร้อยละ 23 ให้หายจากอาการปวดต่างๆได้ ผลการวิจัยยังพบอีกด้วยว่าร้อยละ 91 ของคนที่นวดกดจุดฝ่าเท้าบอกว่าการนวดดังกล่าวช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
ในแต่ละวัฒนธรรมมีการพัฒนาเทคนิคการนวดแตกต่างกัน เช่น การนวดผ่อนคลายความเครียด นวดแก้อาการ เพื่อลดความเจ็บปวดในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องเข้าคอร์สเรียน เพียงแค่รู้ตำแหน่งที่ถูกต้องก็เพียงพอและใช้เวลา 2-3 นาทีในการกดนวดเพื่อสลายจุดติดขัดของพลังในร่างกาย ก็จะรู้สึกเป็นสุข นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการปวดศีรษะและโรคหวัดอีกด้วย
วิธีการนวดกดจุด
– เจ็บคอ
ใช้นิ้วหัวแม่มือกดไปที่รอยพับเล็บของนิ้วชี้ คือหัวแม่มือขวากดไปที่รอยพับเล็บนิ้วชี้ข้างขวา ส่วนหัวแม่มือซ้ายกดไปที่รอยพับเล็บนิ้วชี้ข้างซ้ายกดประมาณ 3 นาที แม้จะเจ็บก็ต้องกดต่อไปอย่าเกร็งเพราะมันช่วยลดไข้ ลดอาการเจ็บคอ หน้ามืดวิงเวียน และปวดฟันได้ด้วย
– ปวดฟัน
ใช้นิ้วหัวแม่มือกดลงไปที่ใต้รักแร้ หากกดถูกจุดจะส่งผลไปที่คอจนกระทั่งถึงฟันจนสังเกตได้กด 3 ครั้ง ครั้งละ 7 วินาที
– ท้องขึ้น
ใช้นิ้วหัวแม่มือกดนวดที่รอยบุ๋มใต้ฝ่าเท้าระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ ต่ำลงมาประมาณ 3 เซนติเมตร กดนวดประมาณ 90 วินาที จากนั้นถูแรง ๆ ไปที่นิ้วเท้า จะช่วยลดอาการปวดท้องได้
– นอนไม่หลับ
การนวดกดจุดเพื่อลดความตึงเครียดก็คือ การใช้นิ้วหัวแม่มือจากมือทั้งซ้ายขวากดไปที่รอยบุ๋มหลังศีรษะทั้งสองข้าง แล้วนวดเป็นวงกลมเบา ๆ จากนั้นกดลงไปเบา ๆ 3 ครั้ง ครั้งละ 7 วินาที นอกจากจะช่วยให้นอนหลับแล้วยังช่วยลดอาการปวดศีรษะและโรคหวัดได้ด้วย
ฝ่าเท้าเปรียบเสมือนกระจกส่องสะท้อนสุขภาพ
คำกล่าวนี้อาจทำให้หลายๆคนไม่เคยได้ยินมาก่อน และเกิดความสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร นับเป็นเวลานานกว่า 3,000 ปี มาแล้ว ที่ชาวจีนมีความเชื่อว่าในร่างกายของคนเรามีเส้นลมปราณกระจายอยู่ ทั่วๆไป ทำหน้าที่เป็นทางเดินของ เลือด ลม ส่งอาหารและพลังงานไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ถ้าการไหลเวียนของเลือดลมเกิดอาการติดขัด ก็จะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นได้
การแพทย์ของจีนยังมีความเชื่อในระบบเส้นเอ็นที่ระโยงระยาง เชื่อมติดต่อกันเหมือนระบบชลประทาน ทำหน้าที่บำรุงเลี้ยงร่างกายและจิตใจ ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้มีความเกี่ยวโยงซึ่งกันและกัน โดยเชื่อมโยงร่างกายภายนอกกับภายใน และเป็นตัวเชื่อมโยงอวัยวะสำคัญๆทั้งหมด เข้ากับอวัยวะส่วนย่อย
ฝ่าเท้าของคนเรามีเส้นลมปราณใหญ่ 6 เส้น เชื่อมติดต่อกับอวัยวะต่างๆ เราจึงสามารถฝังเข็มกระตุ้นที่ฝ่าเท้า เพื่อรักษาโรคตามหลักเส้นลมปราณ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนจีน อินเดีย ตลอดจนชาวอินเดียนแดงในทวีปอเมริกาเหนืออีกด้วย
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ในหลายๆประเทศ โดยเฉพาะประเทศเยอรมันนี และสหรัฐอเมริกา ได้มีการค้นคว้าและพบว่าร่างกายของคนเราสามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็น 10 ส่วน ซึ่งแต่ละส่วนจะไปสิ้นสุดที่ปลายนิ้วมือ และนิ้วเท้าของแต่ละนิ้ว ต่อมามีการพบว่าเมื่อกระตุ้นตำแหน่งต่างๆที่ฝ่าเท้า สามารถทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของอวัยวะต่างๆได้ แสดงว่ามีการติดต่อระหว่างพื้นที่ย่อยๆที่ฝ่าเท้ากับอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย ฝ่าเท้าเรียกว่า พื้นที่สะท้อนของอวัยวะนั้นๆ เช่น บริเวณนิ้วหัวแม่เท้าเป็นพื้นที่สะท้อนของศีรษะ เป็นต้น
การนวดฝ่าเท้าดีอย่างไร
ตามทฤษฎีกล่าวว่าเท้าของเราเหมือนจุดพักของร่างกาย เพราะเป็นที่รวมของจุดสิ้นสุดของเส้นปลายประสาทต่างๆ ที่วิ่งผ่านร่างกาย การนวดฝ่าเท้าคล้ายกับการฝังเข็ม เพราะเป็นการรักษาโรคอีกวิธีหนึ่งโดยการใช้นิ้วมือหรือเครื่องมืออื่นๆ กด นวด กระตุ้นฝ่าเท้า รวมทั้งหลังเท้า และข้อเท้า ตามตำแหน่งพื้นที่สะท้อนอวัยวะนั้นๆ เพื่อปรับการทำงานของอวัยวะนั้นๆ ให้กลับสู่สภาพสมดุลตามปกตินั่นเอง เนื่องจากมีจุดสะท้อนของอวัยวะภายในร่างกายที่ฝ่าเท้าและเท้า เช่น บริเวณนิ้วหัวแม่เท้าเป็นพื้นที่สะท้อนของศีรษะ เป็นต้น
การนวดกดจุดฝ่าเท้าจึงเป็นการช่วยให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตไปยังอวัยวะ ต่างๆ ภายในร่างกายดีขึ้น ส่งผลให้มีการขับถ่ายของเสียออกจากเซลล์และปรับสภาวะสมดุลของร่างกาย ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น
การนวดกดจุดฝ่าเท้าเริ่มจากตรวจดูตำแหน่งที่มีปมใต้ผิวหนังบริเวณเท้า เรียกปมนี้ว่า “Crystalline” อยู่ใต้ผิวหนังลึกลงไป ถ้าอยู่ตรงตำแหน่งใดก็หมายถึงอวัยวะตามแผนผังบนฝ่าเท้านั้นมีปัญหา ซึ่งปมเหล่านี้ เมื่อกดลงไปจะรู้สึกเจ็บมาก แม้จะกดเบาๆ ก็ตาม การกดเพื่อรักษาจะใช้ขอบของนิ้วกดลงไป แล้วหมุนนิ้วตามเข็มนาฬิกา กดลงไปลึกๆ โดยไม่ทำให้เจ็บ แต่เน้นจุดนั้นเพียงสั้นๆ แล้วพัก
ในการนวดกระตุ้นเพื่อรักษาโรค ไม่ว่าจะนวดเพื่อรักษาโรคใดๆ ก็ตาม จะต้องนวดกระตุ้นพื้นที่สะท้อนของเส้นประสาทช่องท้อง (บริเวณกลางฝ่าเท้า) ก่อนทุกครั้งประมาณ 3-5 นาที เพราะจะทำให้ระบบประสาทภายในร่างกายเกิดอาการผ่อนคลายและช่วยให้ผลการรักษา ดีขึ้น จากนั้นจึงนวดกระตุ้นพื้นที่สะท้อนบริเวณอื่นๆ ตามต้องการต่อไประยะเวลาในการนวดกระตุ้นจะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที อาจจะมากหรือน้อยแตกต่างกันไปตามลักษณะอาการของผู้ป่วยแต่ละราย
จำนวนครั้งของการรักษาจะแตกต่างกันไป บางรายนวดเพียงครั้งเดียวอาการเจ็บป่วยก็อาจจะบรรเทาลง แต่บางรายอาจต้องนวดรักษาทุกวันติดต่อกันโดยทั่วๆ ไป ใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 10-12 วัน นอกจากจะนวดกระตุ้นเพื่อรักษาโรคแล้ว ผู้ที่ไม่ได้เจ็บป่วยถ้าได้รับการนวดกระตุ้นฝ่าเท้าทั้งสองข้างเป็นประจำทุก วัน วันละ 10-20 นาที ก็จะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง มีความต้านทานโรคเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ข้อห้ามสำหรับการนวดกดจุด
* ห้ามนวดในหญิงมีครรภ์
* ห้ามนวดขณะมีประจำเดือน
* ห้ามนวดภายใน 1 ชั่วโมง หลังรับประทานอาหารอิ่ม
* ห้ามรับประทานส้มและหน่อไม้ทุกชนิด ก่อนและหลังนวด ( ตามกำหนดที่สั่ง
ใส่ความเห็น